วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ประวัติของผู้ชนะสิบทิศ


เรื่องย่อผู้ชนะสิบทิศ 
ยอดขุนพล

เรื่องมันเกิดขึ้นที่ลุ่มน้ำอิระวดี เมืองตองอู พุกามประเทศ ตรงกับปีพ.ศ. 2073 และเป็นสมัยราชธานีกรุงศรีอยุธยาก่อนเสียกรุงครั้งที่ 1
เมืองตองอูซึ่งในขณะนั้นยังเป็นอิสระปกครองตัวเองอยู่ 45 ปีแล้ว ซึ่งองค์เมงกะยินโยมหาสิริชัยยะสุระก่อตั้งขึ้นพร้อมๆกับเพื่อนตาย
ของพระองค์คือมังสินธูและตะคะญีชาวกะเหรี่ยงซึ่งเป็นเพื่อนของมังสินธู ทีแรกเมงกะยินโยต้องการมอบราชสมบัติให้มังสินธู ………………
...................…แต่มังสินธูบวชเสียแล้ว! เพราะเขาไม่อยากให้มือเปื้อนเลือดอีก และได้เป็นเจ้าอาวาสวัดกุโสดอ............................... 
เรื่องมันเริ่มขึ้นที่จุดนี้……………….


ณ บ้านงะสะยอกบ้านนอกแห่งนึง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ "บุเรงนองกยอดินนธรา" หรือเรียกอย่างพม่าว่า 
"บาดินหย่อง จอเด็งนธรา"...หรือเจ้าจะเด็ดตามพงศาวดารมีพ่อชื่อสิงคะสุร์แม่ชื่อเลาชี อาชีพปาดตาลขาย ( โห.....อาชีพ ) 
แต่ก็น่าแปลกใจที่เด็กบ้านนอกๆเป็นเพียงไพร่สามัญชน กลับกลายเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่ได้ ด้วยลางบอกเหตุดังนี้........ 
.........วันหนึ่งทั้งสองคนปีนขึ้นปาดน้ำตาลสดเช่นเคย และทิ้งพระเอกไว้กลางดิน พอดี!มีไอ้งูยักษ์ประมาณยาวพอๆ 
กับต้นหมากเลื้อยมาขดรอบจะเด็ดไว้ !!!!แต่น่าแปลก....บุเรงนองในอนาคตไม่ยักสะดุ้ง ทั้งพ่อทั้งแม่ต๊กกะใจ! ยืนทำอะไรไม่ได้อยู่ราวๆ 
5นาที ( อันนี้กะเอา )งูมันก็ไปเองตาพ่อเห็นอัศจอรอหันการันต์ยอดังนั้นก็ไม่รอช้า รีบอุ้มลูกวิ่งไปหาพระราชาคณะประจำแขวงของตน 
ซึ่งเป็นหมอดูให้ดูดวงชะตาของไอ้หนูมันหน่อยแปลกจริงๆ 
พระราชาคณะเมื่อดูโหงวเฮ้งของจะเด็ดแล้วก็ดีใจสุดๆ รีบเอามาอุ้มแล้วร้องว่า.......................................... 
"อายุของเราจะมิได้ชมบุญพระเจ้ามหาราชของพุกามประเทศเมื่อใหญ่ ก็ขออุ้มให้เต็มมือเสียแต่น้อยเถิด " 
แล้วก็แนะนำให้เข้าไปสู่ตองอูจะเด็ดมันจะได้เป็นใหญ่ และจะฝากให้อยู่กับมหาเถรกุโสดอเพื่อนเก่า ตาพ่อไม่รอช้ารีบย้ายสำมะโนครัวไปตองอูทันที 
ทั้งครอบครัวก็ได้พึ่งใบบุญองค์เมงกะยินโยนี่เอง แม่เลาชีได้เป็นพระนมหลวงเลี้ยงพระราชบุตรมังตรา 
หรือตะเบงชะเวตี้ในอนาคตอันเกิดจากพระราชเทวีและตะละแม่จันทราเกิดจากพระมเหสีที่ไปสวรรค์เรียบร้อยแล้ว 
ทั้งสองเจ้าหนึ่งไพร่ก็ดื่มนมร่วมเต้ากันมาแต่น้อย...................... 
…………จนกระทั่งทั้งสามโตเป็นหนุ่มเป็นสาว เจ้าจะเด็ดก็ผูกสนิทพิศวาสกับตะละแม่ โดยมีมังตรามากีดกัน 
และมังตรานี่แหละตัวการที่ทำให้ทั้งคู่ต้องจากกัน นำความที่สนิทกันนี่แหละไปทูลพระราชเทวี มังตราลิ้นดำก็เข้าใจพูดซะจนพระราชเทวีจับแยกคือ 
ให้ตะละแม่คืนสู่พระตำหนัก10วันจึงจะมาเยี่ยมแม่เลาชีซักครั้งนึง................... 
โอ้หัวใจชายหนุ่ม.......

10วันต่อมา ตะละแม่เข้าไปคุยกับจะเด็ดในห้องเพียง 2 คน มังตราแอบดูอีกเช่นเคย ก็คิดจะแกล้ง จึงนำความไปทูลพระราชเทวี 
ผลคือ…….

จะเด็ดถูกโบยต่อองค์พระที่นั่งพระเจ้าอยู่หัวนั่นเอง ดูท่าพระองค์จะพิโรธสุดๆ มังตราเห็นท่าไม่ดีก็ไปพาท่านมหาเถยกุโสดอมา 
ให้มาไกล่เกลี่ยจนรอดตาย แต่เจ้าจะเด็ดต้องไปอยู่ที่วัด ทำงานราชการชดใช้ความผิด 
แต่ด้วยความมานะก็ทำงานได้ดีตั้งแต่อายุยังน้อยๆโดยเฉพาะท่านขุนวังทะกยอดิน......................พ่อตาของมังตราในอนาคต......... 
พอดี!......เมงกะยินโยล้มป่วยด้วยโรคพยาธิ พอดีว่าทั้ง 3 หัวเมือง( ใหญ่ )ในลุ่มอิระวดี คือ แปร อังวะ หงสาวดี ต้องการจะเป็นใหญ่ในพุกาม 
ก็แกล้งมาถามไถ่อาการทางหงสาส่งสอพินยาน้องพระเจ้าสการะวุฒิพีมา ทางแปรส่งรานองอุปราชมา อังวะยังสงบอยู่ โดยการเอาทูตมาบังหน้า 
แท้จริงคือดูสภาพเมืองและตั้งมั่นรบ เอาเป็นเมืองขึ้น 
เอาละสิทีนี้……….


เจ้าจะเด็ดนั้นก็ถูกส่งมารับใช้ทั่นทูตที่บ้านขุนวังซึ่งมีลูกสาวนามนันทวดี สอพินยามันก้อจีบ ( ด้วยเป็นชาติเจ้าชู้ ) 
ให้จะเด็ดเป้นพ่อสื่อ แต่ นันทวดีก็ไม่ยอมรับ ทีนี้พอมังตรามาเยี่ยมบ้านก็ดันทะลาะกับสอพินยาซะอีก ....ก็จะไม่ทะเลาะได้ไง 
มังตราเดินขึ้นบ้านเองแถมไม่เกรงใครซะด้วย ( พ่อกูใหญ่ๆ ) 
แถมมังตราก็ดันชอบนางอีก เอาจะเด็ดเป็นพ่อสื่ออีกรอบ นันทวดีก็ไม่ยอมรับอีก แท้จริงแอบชอบจะเด็ดตะหาก ด้วยมันเรียบร้อย 
พูดเก่งอีกแต่พอสอพินยาไปเข้าเฝ้าในวังเจอตะละแม่จันทรา ก็ลืมนันทวดี....หวังจะจีบนางๆทราบว่าจะเด็ดไปอยู่รับใช้สอพินยา 
ก็แกล้งถามถึงทำทีชวนไปงานลอยกระทงพร้อมจะเด็ด สอพินยาคิดว่านางจะมีไมตรีต่อตน ก็รับคำชวนด้วยสีหน้าระรื่น 
แถมไปโม้กับจะเด็ดๆ ก็โกรธ แต่ก็แกล้งป่วย ไปไม่ได้ สอพินยาก็ต้องไปแทน 
พอวันงานตะละแม่ไม่เห็นจะเด็ดก็กลับ ทิ้งให้สอพินยายืนงง?????????????????????????? 
พอถามนางตองสาข้าหลวงเลยรู้ภูมิหลังของจะเด็ด ก้ออาฆาต พอดีมีไขลูครูดาบซึ่งเป็นพี่เลี้ยงสอพินยา 
แนะอุบายให้เอาแหวนไปซ่อนในหมอนของมัน แล้วหาว่ามันเอาไปก็ได้................... 
แต่จะเด็ดในตอนนั้นคุยกับนันทวดีในสวน...นางก็สารภาพรักกับจะเด็ด แต่จะเด็ดเห็นว่านางเป็นนายก็ขอให้รักกันแบบนายกับบ่าวเถอะ 
นางไม่ยอม ก็วิ่งขึ้นเรือน ต่อมาจะเด็ดมันก็เข้านอน ยังไม่ทันเอนตัวก็เกิดเหตุขึ้น 
………………………ไขลูทำทีเข้ามาขอค้นพอเจอแหวนก็ มาตู่ว่าจับขโมยได้ จะเด็ดโมโหรีบชกคว่ำแล้วเตลิดไปที่วัด หลบซ่อนตัวกับมหาเถร 
บวชเป็นเณร แถมย้อมสีผิวอีกต่างหาก และเปลี่ยนนามเป็น "มังฉงาย"แต่ก็มิอาจซ่อนได้สนิท มังตราสืบจนพบตัวแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง..... 

………………………. ต่อมาองค์เจ้าอยู่หัวเกิด "ปลง" ขึ้นมาว่าตัวแก่แล้ว มังตราราชบุตรคงจะรั้งตองอูไม่อยู่แน่ก้อคิดจะฝึกทหารไว้ 
จึงประกาศให้มีการประลองขึ้น พอมังฉงายทราบข่าวก็นำความไปบอกพระมหาเถรๆก็ให้ไปฝึกที่บ้านของตะคะญีเพื่อนเก่า 
พอไปถึงเจ้าศิษย์เอกของท่านตะคะญีซึ่งมีมาดนักเลงเต็มตัวชื่อเนงบาและสีอ่อง บังคับให้จะเด็ดดื่มเหล้า 
แต่เขาไม่ยอมก็เลยท้ากันไปว่าจะสู้อย่างลูกผู้ชายที่โรงซ้อมอาวุธของตะคะญี ก่อนจะมีการประชันระหว่างหนุ่มร่างเล็ก 
กับไอ้หนุ่มร่างใหญ่ ( เนงบา ) ผมแดงตาแดง ก็มีชายนาม "จาเลงกะโบ" เข้ามาขวางซะก่อน เขาเป็นลูกชายของท่านครูดาบนี่เอง 
.....อันจาเลงกะโบนี้สักยันต์เป็นรูปอุณาโลมที่หน้าผาก พอท่านครูรู้ว่าจะเด็ดเป็นศิษย์เอกของมังสินธูก็จัดการฝึกหนักให้ 
และให้ประลองกับแม่กันทิมาน้องสาวจาเลงกะโบ เป็นคนแรกปรากฎว่ามังฉงายแพ้ ( ออมมือ ) กันทิมาก็แสนดีเอายามาทาให้ 
แถมนางแอบชอบเจ้าหนุ่มซะด้วย......... 
....................................แต่ก็มีไขลูครูดาบมาจนได้ ไอ้หมอนี่มันเกิดมาหนักแผ่นดิน นักเลงขนาดเสือใบเรียกเตี่ย ( ล้อเล่นๆ ) 
พอดีมันเข้ามาดงกะเหรี่ยงเกิดฉะดาบกับเจ้าเนงบากันขึ้น ก็มันเป็นครูดาบ เรื่องกลยุทธ์ไม่ต้องพูดถึง เนงบาแพ้ยับ.. 
.พอจะเด็ดรู้เข้าก็รอจังหวะแก้แค้นจนทำสำเร็จ!..................... 
……………ก็ไอ้ไขลูมันถนัดดาบไม่ได้ถนัดทวน จะเด็ดมันก็ขอลองด้วยทวนปรากฎว่าพระเอกมีชัย...ฝาก 3 แผลไว้ตามที่ต่างๆของร่างกาย 
จนไขลูต้องกลับตองอูไปด้วยความแค้น………..และนำความไปทูลสอพินยาๆ ก็เอะใจ คิดว่าเป็นจะเด็ดแน่ๆ 
เพราะมันพูดทิ้งท้ายว่าแผลที่สามจะชำระเมื่อวันขึ้น 4 ค่ำเดือน 12 อันเป็นวันที่จะเด็ดหนีมา 
…….เวรแล้วสิเรา…..
…………………วันประลองใกล้เข้ามาทุกขณะ จะเด็ดก็ชวนเพื่อนร่วมตายทั้งสามอำลาท่านครูดาบไป พอไปถึงเข้าร้านจะโซ้ยข้าว ..................
ก็เกิดทะเลาะกับทั่นจิสะเบงลูกตองหวุ่นญีนายทัพเรือ ด้วยว่ามันเบ่งไปหน่อยจาเลงกะโบ สายเลือดตะคะญีเกลียดการวางโตเป็นที่สุด
ก็เลยประดาบกันอย่างสนุกสนาน จนจิสะเบงพ่ายกลับไปเล่าให้ไขลูฟัง เพราะเคยเป็นคนช่วยเหลือฉุดลูกสาวชาวบ้านมาก่อน
แถมมันเป็นศิษย์อ. มังสินธูซะด้วย ไอ้ตัวนี้มันเกิดมาหนักแผ่นดินจริงๆ ตายเมื่อไหร่แผ่นดินคงจะสูงขึ้นตั้งแยะ ตอนหลังมันทรยศต่อตองอู
และไม่ค่อยฟังอาจารย์ว่ากล่าวเลย ไขลูฟังแล้วรู้ว่าจะเด็ดแน่ๆ ก็นำความไปบอกสอพินยาๆ ก็คิดอุบายฆ่าจะเด็ดให้ได้
โดยใช้นางตองสาเป็นตัวหมาก..............................
อันตองสานี้มักจะไปหาสอพินยาเนืองๆ จนลอบได้เสียกัน และมาหาอยู่บ่อยๆ ให้ตองสาพาจะเด็ดเข้าวังแล้วบอกว่าตะละแม่จันทราอยากพบ
พอยามสามให้บอกว่าตะละแม่ไม่ว่างแล้วพาออกประตูวังสอพินยาจะซุ่มฆ่ามันเอง ........................
และแล้วก็เป็นไปตามแผน แต่ว่าจะเด็ดมันมีอะไรดีมิทราบทำให้ตองสาสงสารจนบอกความจริงให้จะเด็ดๆ ก็ใช้แผนซ้อนแผน
โดยการอยู่ในวังวันนึงและให้ตองสาไปบอกเพื่อนตายทั้งสามว่าให้ซุ่มเพื่อจะประดาบกับไอ้พวกหนักแผ่นดินนั่น
แล้วให้ไปบอกสอพินยาว่าออกจากวังไม่ได้ พรุ่งนี้ก็คงเรียบร้อย..................รับรองมันเด๊ด
คืนนั้น…….ตองสาออกไปส่งจะเด็ดด้วยความเป็นห่วง และพอไปถึงเพื่อนเกลอทั้งสาม พบ 4 ศพสมุนของสอพินยาก็ตกใจ ถามได้ความว่า
พอดีมาแอบอยู่ที่เดียวกัน มีไอ้คนนึงจำทั้งสามได้ก็ร้องขึ้นและประดาบกัน จนตัวนายหนีไปได้ และพากันกลับวัด วันต่อมาเป็นวันประลอง
ขุนเมืองบังเอิญไปพบศพไอ้สี่คนนั้นก็มีจอมอมาให้ท่านมหาเถรว่า พบศพอยู่ที่ท้ายวังและสงสัยว่าศิษย์ๆของท่านเป็นคนทำ ให้มอบตัวขึ้นศาล
จะเด็ดทราบความก็ร้องไห้ ไม่มีหวังจะได้ครองรักกับตะละแม่เสียแล้ว มังตรามาพอดี ก็แนะให้ไปทำความดีที่แปรแทน
โดยการไปเป็นสายลับ007 ไปสืบภูมิประเทศแปร และให้เพื่อนตายทั้งสามประลองจนได้ราชการก่อนแล้วให้ตามไป ถ้ามังตราได้ราชสมบัติ เมื่อไหร่จะบุกแปรให้เรียบ จะเด็ดจำต้องจากตะละแม่ไปแปร……………..

………………………..จะเด็ดได้กรำศึกกับเมืองอื่นๆ จนตกอยู่ใต้อณาเขตของตะเบงชะเวตี้ ได้แต่งงานกับสาวหลายๆคน
บางคนเป็นราชธิดาเมืองโน้นเมืองนี้ แถมได้ครองกับตะละแม่จันทราด้วย
และได้รับยศเป็น"บุเรงนองกยอดินธรา" หรือ "บาดินหย่อง จอเด็งนธรา" ฉะนี้แล………………………………

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น