วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2557

พระบรมราโชวาท



.....
ใกล้วันพ่อ วันที่ 5 ธันวาคม 2552 แล้ว
ผมเชื่อว่า ในปีนี้ พวกเราชาวไทยทุกคน
ต่างก็ร่วมใจกัน ขอพรให้ในหลวงของเรา ทรงหายประชวร
มีพระพลานามัยที่แข็งแรง เป็นมิ่งขวัญให้กับชาวไทยต่อไป
.....
ตั้งแต่ทรงครองราชย์ จากอดีตจนถึงปัจจุบันนั้น
ในหลวงของพวกเรา ทรงมีพระบรมราโชวาท
และพระราชดำรัสกับปวงชนชาวไทย นานับประการ
ในการให้ทุกคนได้ประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดีของสังคม
และทรงเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับพวกเราในทุกๆด้าน
.....
.....
ซึ่งหากเราใส่ใจและสนใจนำพระราชดำรัสมาปฏิบัติ
ในชีวิตประจำวันของพวกเราทั้งด้านความคิด
ด้านการงาน ครอบครัว และการใช้ชีวิตแล้ว ล่ะก้อ
เชื่อแน่ว่าจะทำให้ชีวิตของเราดีขึ้นอย่างแน่นอน
.....
พระราชดำรัสของพระองค์ที่มอบให้แก่พวกเราชาวไทย
ในหลากหลายเรื่องนั้น ล้วนแล้วแต่มีคติสอนใจ
ที่อยากให้ทุกคนนำมาประพฤติปฏิบัติ
เพื่อความสุข ความสำเร็จ และความเจริญของเรา
เปรียบเสมือนเป็นคำสอนของพ่อที่ยิ่งใหญ่และมีคุณค่า
.....
ต่อไปนี้จะเป็นพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ที่พระองค์ได้ให้พระบรมราโชวาทในโอกาสต่างๆ
ซึ่งเกี่ยวกับการปฏิบัติตนเป็นคนดีและการใช้ชีวิตในสังคม
ผมเชื่อว่า หลายๆพระบรมราโชวาทที่พระองค์มอบให้นั้น
พวกเราคงเคยได้ยินกันบ่อยๆ แต่จะมีใครรู้ไหมว่า
พระบรมราโชวาทนั้น เกิดขึ้นที่ไหน และเมื่อใด
.....

คนดี
ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดี และคนไม่ดี
ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด
การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย
จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี
หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง
และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ
ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้
พระบรมราโชวาทในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ
ค่ายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี 11 ธันวาคม 2512
.....

อนาคตทำนายได้
ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เกิดที่เป็นอยู่แก่เราในวันนี้
ย่อมมีต้นเรื่องมาก่อน ต้นเรื่องนั้นคือ เหตุ สิ่งที่ได้รับคือ ผล
และผลที่ท่านมีความรู้อยู่ขณะนี้
จะเป็นเหตุให้เกิดผลอย่างอื่นต่อไปอีก
คือ ทำให้สามารถใช้ความรู้ที่มีอยู่ทำงานที่ต้องการได้
แล้วการทำงานของท่าน ก็จะเป็นเหตุให้เกิดผลอื่นๆ
ต่อเนื่องกันไปอีก ไม่หยุดยั้ง
ดังนั้นที่พูดกันว่า ให้พิจารณาเหตุผลให้ดีนั้น
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ
ให้พิจารณาการกระทำหรือกรรมของตนให้ดีนั่นเอง
คนเราโดยมากมักนึกว่า
อนาคตจะเป็นอย่างไรเราทราบไม่ได้
แต่ที่จริงเราย่อมจะทราบได้บ้างเหมือนกัน
เพราอนาคต ก็คือ ผลของการกระทำในปัจจุบัน
พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 8 กรกฎาคม 2519
.....
...
ความดี
การทำดีนั้นทำยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ
เพราะหาไม่ความชั่วซึ่งทำได้ง่าย จะเข้ามาแทนที่
และจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็ซโดยไม่ทันรู้สึกตัว
แต่ละคนจึงต้องตั้งใจและเพียรพยายามให้สุดกำลัง
ในการสร้างเสริมและสะสมความดี
พระบรมราโชวาทพระราชทาน แก่ผู้สำเร็จการศึกษา
ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สวนอัมพร  14 สิงหาคม 2525
.....
การทำงาน
เมื่อมีโอกาสและมีงานทำ
ควรเต็มใจทำโดยไม่จำเป็นต้องตั้งข้อแม้
หรือเงื่อนไขอันใด ไว้ให้เป็นเครื่องกีดขวาง
คนที่ทำงานได้จริงๆนั้น ไม่ว่าจะจับงานสิ่งใด
ย่อมทำได้เสมอ ถ้ายิ่งมีความเอาใจใส่
มีความขยัน และ ความซื่อสัตย์สุจริต
ก็ยิ่งจะช่วยให้ประสบผลสำเร็จในงานที่ทำสูงขึ้น
พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร
วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา 8 กรกฎาคม 2530
.....

คุณธรรมของคน
ประการแรก คือ ความซื่อสัตย์
ประการที่สอง คือ การรู้จักข่มใจฝึกใจตนเอง
ให้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในความสัตย์ความดีนั้น
ประการที่สาม คือ การอดทน อดกลั้น และอดออม
ที่จะไม่ประพฤติล่วงความสัตย์สุจริต
ประการที่สี่ คือ การรู้จักละวางความชั่ว ความทุจริต
และรู้จักสละประโยชน์ส่วนน้อยของตน เพื่อประโยชน์ส่วนรวม
คุณธรรมสี่ประการนี้
ถ้าแต่ละคนพยายามปลูกฝังและบำรุงให้เจริญงอกงาม
จะช่วยให้ประเทศชาติบังเกิดความสุข ความร่มเย็น
และมีโอกาสที่จะปรับปรุงพัฒนาให้มั่นคงก้าวหน้าต่อไป
พระบรมราโชวาท ในพิธีบรวงสรวง
สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า 5 เมษายน 2535
.....
ความเพียร
ความเพียรที่ถูกต้องเป็นธรรม และพึงประสงค์นั้น
คือความเพียรที่จะกำจัดความเสื่อมให้หมดไป
และระวังป้องกันมิให้เกิดขึ้นใหม่ อย่างหนึ่ง
กับความเพียรที่จะสร้างสรรค์ความดีงาม
ให้บังเกิดขึ้นและระวังรักษามิให้เสื่อมสิ้นไป อย่างหนึ่ง
ความเพียรทั้งสองประการนี้
เป็นอุปการะอย่างสำคัญ ต่อการปฏิบัติตน ปฏิบัติงาน
ถ้าทุกคนในชาติจะได้ตั้งตนตั้งใจอยู่ในความเพียรดังกล่าว
ประโยชน์และความสุขก็จะบังเกิดขึ้นพร้อม
ทั้งแก่ส่วนตัวและส่วนรวม
พระราชดำรัสพระราชทานในพิธีกาญจนาภิเษก
ทรงครองราชย์ ครบ 50 ปี พ.ศ.2539
.....
แก้ปัญหาด้วยปัญญา
ปัญหาทุกอย่างไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ มีทางแก้ไขได้
ถ้ารู้จักคิดให้ดี ปฏิบัติให้ถูก
การคิดได้ดีนั้น มิใช่การคิดได้ด้วยลูกคิด หรือด้วยสมองกล
เพราะโลกเราในปัจจุบันจะวิวัฒนาการไปมากเพียงใดก็ตาม
ก็ยังไมมีเครื่องมืออันวิเศษชนิดใด
สามารถขบคิดแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างสมบูรณ์
การขบคิดวินิจฉัยปัญหา จึงต้องใช้สติปัญญา
คือคิดด้วยสติรู้ตัวอยู่เสมอ
เพื่อหยุดยั้งและป้องกันความประมาทผิดพลาด
และอคติต่างๆมิให้เกิดขึ้น
ช่วยให้การใช้ปัญญาพิจารณาปัญหาต่างๆ
เป็นไปอย่างเที่ยงตรง ทำให้เห็นเหตุเห็นผลที่เกี่ยวเนื่องกัน
เป็นกระบวนการได้กระจ่างชัด ทุกขั้นตอน
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 1 สิงหาคม 2539
.....
...
ความพอเพียง
คำว่า พอเพียง มีความหมายว่า พอมีกิน
เศรษฐกิจแบบพอเพียง หมายความว่า ผลิตอะไรมีพอที่จะใช้
ไม่ต้องขอยืมคนอื่น อยู่ได้ด้วยตนเอง
แปลจากภาษาฝรั่งได้ว่า ให้ยืนบนขาของตัวเอง
หมายความว่า สองขาของเรายืนบนพื้นให้อยู่ได้
ไม่หกล้ม ไม่ต้องไปขอยืมของคนอื่นเพื่อที่จะยืนอยู่
คำว่า พอ คนเราถ้าพอในความต้องการ มันก็มีความโลภน้อย
เมื่อมีความโลภน้อย ก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย
พอเพียง อาจมีมาก อาจมีของหรูหราก็ได้
แต่ว่าต้องไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น
พระราชดำรัสพระราชทานอในโอกาสที่คณะบุคคลเข้าเฝ้า
ถวายพระพรชัยมงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 4 ธันวาคม 2541
.....
นี่แหละครับ พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสส่วนหนึ่ง
ที่ในหลวงทรงประทานให้กับพวกเราชาวไทยทุกคน
ให้เรานำไปประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดีของครอบครัว
..
เป็นคนดีของสังคมและประเทศชาติต่อไป
..
ก็ขอให้พวกเราน้อมนำไปประพฤติปฏิบัติ
..
เลิกทะเลาะเบาะแว้ง
..
เลิกโกรธ เลิกเกลียด และทำร้ายกันเสียที เถิดครับ
..
ยึดมั่นในความดี ในความถูกต้อง
เป็นคนดีของครอบครัวและสังคม มีศีล มีธรรม
เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้เราค้นพบความสุขในชีวิต ..ได้อย่างไม่ยาก
                                                                          ..... วันพุธ .....