วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ประโยชน์ของคอร์มพิวเตอร์




ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
เราได้ประโยชน์อะไรจากการเรียนคอมพิวเตอร์

1. ทันสมัย / ทันเหตุการณ์ / ทันข้อมูลข่าวสาร / ทันโลก ช่วยให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทั่วโลก
2. ช่วยให้การเรียน การทำงาน ทันสมัยและไรับความสะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น ได้เรียนรู้จากสื่อที่ทันสมัยที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์
    ที่เรียกว่า โปรแกรม CAI
3. เป็นแหล่งการเรียนรู้ที่ดีเยี่ยม ช่วยในการค้นคว้าหาความรู้เป็นห้องสมุดขนาดใหญ่
4. ช่วยรับ - ส่งข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว
5. ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด เช่น เกม ดูภาพยนตร์ ฟังเพลง ร้องเพลง
6. ช่วยสร้างงานศิลปะ ออกแบบชิ้นงานได้อย่างสร้างสรรค์ สวยงาม

ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. ประโยชน์ทางตรง
        ช่วยให้มนุษย์ทำงานได้โดยตรงคือคอมพิวเตอร์ทำงานได้เที่ยงตรง รวดเร็ว ไม่เหน็ดเหนื่อย ช่วยผ่อนแรงมนุษย์ ในด้านต่าง ๆ
เช่น ด้านการคำนวณ พิมพ์งาน บันทึกข้อมูล ประมวลผล ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานในแวดวงใน หากนำคอมพิวเตอร์เข้าช่วยงาน
จะช่วยแบ่งเบาภาระงานได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพ

2. ประโยชน์ทางอ้อม
        คอมพิวเตอร์ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต เช่น ช่วยในการเรียนรู้ให้ความปันเทิงความรู้ ช่วยงานบันเทิงพัฒนางานด้านต่าง ๆ
เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีอันส่งผลให้ความเป็นอยู่ของมนุษย์ดีขึ้น เป็นต้น
 

เปิดเผยความจริงเกี่ยวกับ " การสะกดจิต "


เปิดเผยความจริงเกี่ยวกับ " การสะกดจิต "
การสะกดจิต (Hypnotism) คืออะไร?
 การสะกดจิต คือ วิธีการทำให้บุคคลที่ถูกสะกดจิต มีสภาวะจิตและกายที่ผ่อนคลาย  ไม่ใช่หลับ ดังที่ภาษากรีค Hypnos หมายความว่า หลับ”  แต่เมื่อสักเกตดู ผู้ถูกสะกดจิตมีสภาวะที่ผ่อนคลาย สงบสบายคล้ายหลับ  ผู้สั่งจิตที่ได้รับการเรียนรู้และฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี และมีประสบการณ์ในการสะกดจิตหรือสั่งจิต(Hypnotize) อย่างถูกหลักการและวิธีการ  สามารถทำให้ผู้ถูกสะกดจิตหรือถูกสั่งจิต  สามารถ  เปลี่ยนแปลงความคิด  ความรู้สึก  อารมณ์ และพฤติกรรมได้  นอกจากสิ่งดังกล่าวแล้ว  การสะกดจิตยังสามารถ  แก้ไขพฤติกรรม ชีวิตและความเป็นอยู่  ความดื้อด้าน  ความเกียจคร้านการงาน  การศึกษาเล่าเรียน จากนิสัยที่เสียที่เลว กลับมาเป็นนิสัยที่ดี  คิดดี  พูดดี  ทำดี  ทำการงานรับผิดชอบและให้ความร่วมมือแก่ผู้บังคับบัญชา  ผู้ใต้บังคับบัญชาและผู้ร่วมงานเป็นอย่างดี  จากการมีชีวิตอยู่ปชีวิตไปวัน ๆ อย่างไร้จุดหมาย  มาดำเนินชีวิตที่มีความกระตือรือร้น มีความมุ่งหวัง  มีความเพียรพยายาม  ขยันอดทนต่อปัญหาและความยุ่งยากลำบากต่าง ๆ  โดยมีเป้าหมายที่จะมีชีวิตที่ดีกว่า ในทุกเรื่อง เช่น ต้องการที่จะมี สุขภาพจิตดี  สุขภาพกายดี  มีความเป็นอยู่ในครอบครัวดี  มีความเป็นอยู่ในสังคมดี ได้รับความร่วมมือจากผู้ร่วมงานดี  อยากจะได้สิ่งที่มนุษย์ทุกคนปรารถนายิ่งนัก นั่นคือ  มีทรัพย์หสินเงินทอง ประสบความสำเร็จและมีความสุข สันติสุขในจิตใจ
<!--[if !vml]-->http://www.hypnoticquality.com/images/1110187784/Healing01s.jpg<!--[endif]-->
Mrs.Natacha กำลังรับการบำบัดโรคกลัวหนู
(Uriphobia)
<!--[if !vml]-->http://www.hypnoticquality.com/images/1110187784/Healing02s.jpg<!--[endif]-->
ครอบครัวของ Mrs.Natacha และเพื่อนๆชาว
อังกฤษมาร่วมชมการบำบัดด้วย
การสะกดจิต อันตรายไหม?
 ตามความเป็นจริง  เราทุกคนถูกสะกดจิตอยู่เป็นประจำทุกวัน  เช่นการอ่านหนังสือเตรียมสอบ อ่านหนังสือนิยาย  สนุกเพลิดเพลินจนไม่ได้ยินเสียงคนเรียก  คนเดินและเสียงอื่นใด  เพราะจิตใจจดจ่ออยู่กับเรื่องนิยายนั้น  ที่ผู้เขียนมีความสามารถในการเขียนบรรยายให้ตัวหนังสือเคลื่อนไหวเหมือนภาพจริงเรื่องจริง  เรื่องหนังเรื่องละครก็เช่นเดียวกัน  ทำให้ผู้ดูผู้ชมถูกสะกดทำให้เกิดความรู้สึกคล้อยตาม จนร้องไห้ออกมา  หรือหัวเราะออกมาได้  แต่บุคคลเหล่านั้นก็ไม่มีอันตรายแต่ประการใด
 ในระหว่างการสะกดจิต  คุณได้ยินผู้สะกดจิตพูดสั่งอย่างชัดเจน  ดังนั้น คุณสามารถที่จะหยุด ไม่ฟัง และลุกขึ้นออกไปจากที่สะกดนั้นเลยก็ได้  เมื่อไม่เป็นที่พอใจ  เพราะคุณได้ยิน และรู้เรื่องทุกสิ่งที่ผู้สะกดพูดหรือกระทำสิ่งใด ๆ โดยตลอด 
 วิชาการสะกดจิต ถ้าไม่ดีจริง ไม่มีประโยชน์ บุคคลที่เรียนสูงระดับ Ph.D., M.D., ซึ่งอยู่ในประเทศที่เจริญและพัฒนาแล้ว เขาคงไม่มีการเรียนการสอนกัน ถึงระดับ ปริญญาเอก  ยิ่งกว่านั้น  เขายังพัฒนาความรู้เรื่อง การสะกดจิตหรือการสั่งจิตนี้ให้ก้าวหน้ากว้างไกลยิ่งขึ้น มันน่าแปลกไหมท่าน  ที่ประเทศระดับมหาอำนาจ เขาเปิดการเรียนการสอนกัน เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ รัสเซีย และอื่นๆ  แต่บุคคลในประเทศที่ด้อยพัมนาหรือกำลังพัฒนากลับคิดและมองดูว่า การสะกดจิตเป็นเรื่องเหลวไหล”   คุณผู้มีสติปัญญาลองพิจารณาดูซิว่า   คนที่มีปริญญา Ph.D., M.D., กับคนที่ไม่มีปริญญา ไม่มีดีกรี  ใครจะเป็นคนที่มีความรู้มาก ใครจะเป็นคนที่มีความรู้น้อย   ผมเคยพูดเสมอว่า  “คนที่เรียนน้อยรู้มากไม่มี   คนที่เรียนมาก รู้น้อยก็ไม่มีเช่นกัน”   และคนที่ไม่แสวงหาความรู้ เรียนรู้ศาสตร์ของผู้อื่นเลย  จะอ้างว่าตนมีความรู้ดีในศาสตร์นั้น ๆ ได้อย่างไร  จริงไหมท่านผู้มีปัญญา?
 ขอให้เราทั้งหลาย จงมีจิตใจที่เปิดกว้าง  พยายามแสวงหาความรู้อยู่เสมอ  แสวงหาสิ่งที่เรายังไม่รู้ให้รู้ และพยายามศึกษาฝึกหัดให้รู้จริง  ถ้าทำดังนี้ได้ ก็จะได้ชื่อว่า  “นักแสวงหาความรู้  นักการศึกษาที่แท้จริง  รู้จริงและทำได้จริง  สามารถถ่ายทอดอย่างผู้รู้ที่แท้จริง”  ตัวผมเอง เมื่อไม่รู้สิ่งใดจริงแจ่มแจ้งชัดเจนแล้ว  ไม่กล้าที่จะไปพูดว่า สิ่งนั้นไม่ดี ไม่ถูก และไม่มีประโยชน์เด็ดขาด
การสะกดจิตนั้นมีประโยชน์อย่างไร?
 การสะกดจิตเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยม สามารถที่จะทำให้  จิตสำนึกเชื่อง   ทำให้จิตใต้สำนึกมีพลังและมีศักยภาพที่เลิศยิ่งนัก   สามารถช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตได้หลายอย่าง  เช่น  ทำให้สุขภาพดีขึ้น  พฤติกรรมดีขึ้น ขจัดความอาย ความประหม่า ตื่นเต้น ความกลัวต่าง ๆ ให้หมดไป  ช่วยให้มีความเชื่อมั่นในตนอง  ช่วยให้มีความจำดีขึ้น  มีสมาธิดีขึ้น  เพิ่มความสามารถและสมรรถนะทางด้านต่าง ๆ ได้มากมาย แม้แต่การกีฬา
 มีคนมาหาผม  ขอให้แก้ปัญหาความจำไม่ดี  ผมก็จะสั่งจิตใต้สำนึกของเขาให้พัฒนาความจำของเขาดังนี้  สั่งย่อให้ได้รู้กันสักเล็กน้อยเป็นตัวอย่าง...
• ความจำของคุณดีขึ้น แหลมคมขึ้น ทุกวัน ๆ
• คุณจำเรื่องต่าง ๆ ที่คุณต้องการจำได้ดี  คุณสามารถระลึกถึงสิ่งที่คุณต้องการรู้ให้กลับมาได้อย่างง่ายดาย
• คุณสามารถจดจำสิ่งที่คุณคิดว่าสำคัญ จำได้แม่นยำ และจำได้ทนนานอย่างถาวร
               สมอง ความคิดของคุณแหลมคมขึ้น  ความจำของคุณดีขึ้นทุกวัน ๆ
การสะกดจิตทำให้แข็งแรงขึ้น และหนุ่มสาวขึ้นได้ไหม?
 เป็นไปได้ทีเดียว  การสั่งจิตช่วยให้เซ็ลล์ใหม่เจริญเติบโตขึ้น  เซ็ลล์ใหม่ก็จะเติบโต แข็งแรงสมบูรณ์ และดูอ่อนกว่าวัย   อย่าลืมว่า  การสั่งจิตต่อตนเองของคุณนั้นเป็นอย่างไร  คุณคิดสั่งจิตและตัวของคุณอย่างไร  คุณก็จะเป็นบุคคลเช่นนั้น
ด้วยเหตุนี้  พึงจำไว้ว่า  เปลี่ยนความคิดของคุณได้  คุณย่อมเปลี่ยนชีวิตของคุณได้เช่นกัน"
 พึงระลึกอยู่เสมอว่า    เราคิดสุขหรือทุกข์ ร่างกายของเราก็จะเป็นเช่นนั้น  มันดูง่ายใช่ไหม   เพียงแต่คิดเท่านั้น  ผลก็จะปรากฏออกมาอย่างน่าทึ่ง